ติดต่อเรา 094-746-8888,095-414-2345

59/21 ถ.พระภูเก็ตแก้ว ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต 83120

เวลาทำการ

จันทร์ - เสาร์: 9:00 - 17:00

ประวัติ สมาคมพิโกไฟแนนซ์ ประเทศไทย

ประวัติ สมาคมพิโกไฟแนนซ์ ประเทศไทย

ที่มา.....เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะแก้ปัญหา หนี้นอกระบบ ที่เป็นปัญหาในระบบการเงินกู้ยืมในสังคมไทย โดยเฉพาะ กลุ่มคนผู้มีรายได้น้อย ต้องกู้เงินอัตราดอกเบี้ยสูง การติดตามทวงหนี้ที่สุดโหด และไม่มีโอกาสที่จะชำระหนี้ได้ทั้งหมด

แนวทางปฏิบัติของรัฐต้องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความจำเป็นที่ต้องการเพิ่มช่องทางให้กับประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน จึงอนุญาตให้มีการประกอบกิจการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับ(สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ให้เจ้าหนี้หรือนายทุนให้มาขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยขอให้ทุกคนหรือบริษัท เข้ามาขอจดทะเบียนกับกระทรวงการคลัง ซึ่งให้บริษัทที่กระจายกันอยู่ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในทุกภาคของประเทศได้ ปฏิบัติให้เงินกู้อยู่ในระบบเดียวกัน เป็นการให้สินเชื่อรายย่อย เอนกประสงค์ วงเงินคนละไม่เกิน 50,000.- บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) อัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมอื่นไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี จะมีหรือไม่มีหลักประกันก็ได้ ทั้งนี้แต่ละบริษัทจะต้องปล่อยสินเชื่อมีภาระหนี้ทุกขณะไม่เกิน 50,000.- (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ในเบื้องต้น

แนวทางปฏิบัติของรัฐต้องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความจำเป็นที่ต้องการเพิ่มช่องทางให้กับประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน จึงอนุญาตให้มีการประกอบกิจการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับ(สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ให้เจ้าหนี้หรือนายทุนให้มาขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยขอให้ทุกคนหรือบริษัท เข้ามาขอจดทะเบียนกับกระทรวงการคลัง ซึ่งให้บริษัทที่กระจายกันอยู่ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในทุกภาคของประเทศได้ ปฏิบัติให้เงินกู้อยู่ในระบบเดียวกัน เป็นการให้สินเชื่อรายย่อย เอนกประสงค์ วงเงินคนละไม่เกิน 50,000.- บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) อัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมอื่นไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี จะมีหรือไม่มีหลักประกันก็ได้ ทั้งนี้แต่ละบริษัทจะต้องปล่อยสินเชื่อมีภาระหนี้ทุกขณะไม่เกิน 50,000.- (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ในเบื้องต้น

ด้านผู้ขอกู้ คือกลุ่มคนทั้งในพื้นที่นั้นๆผู้มีรายได้น้อย และได้รับความเดือดร้อนจากการกู้เงินนอกระบบมาก่อน หรืออาจจะยังไม่เคยกู้ แต่กำลังคิดจะขอกู้ ได้สร้างโอกาสให้กลุ่มคนกลุ่มนี้ได้มีโอกาส เข้าหาแหล่งเงินทุนที่แท้จริง

จึงเกิดการรวมตัวของกลุ่มเจ้าหนี้ทั่วประเทศที่ได้รับใบอนุญาตและที่อยู่ในระหว่างขอใบอนุญาต จำนวน 243 บริษัท ณ วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2560 ได้เริ่มมีความคิดที่จะรวมตัวกันเป็นชมรม ชื่อ ชมรมพิโกไฟแนนซ์แห่งประเทศไทย ประชุม 1/2560 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2560 ณ ห้องประชุม ห้องอาหารชายคา จ.ร้อยเอ็ด มีสมาชิกเข้าประชุม 62 บริษัท วาระสำคัญที่ได้ลงเป็นมติไปแล้วได้รับรองนายสมเกียรติ จตุราบัณฑิต บริษัทโอเค 2017 จำกัด เป็นประธานชมรมฯ คนแรก และยังมีมติแต่งตั้งผู้บริหารระดับรองประธานคนที่ 1. นายฉัตรชัย ไกรสรกิตติ นายไชยวัฒน์ อึงสวัสดิ์ เป็นเลขา นายขจิต เสรีรัตน์ เป็นที่ปรึกษา และตำแหน่งรองประธานประจำภาคต่างๆ 6 ภาคและรองประธานภาคกรุงเทพมหานคร 1 ท่าน

จากนั้น เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม พ.ศ.2560 ชมรมฯ ได้จัดประชุมครั้งที่ 2/2560 ที่ห้องอาหารชายคา จ.ร้อยเอ็ด ครั้งนี้ได้มีวาระสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องเสนอให้สมาชิกพิจารณา เป็นมติที่ประชุม วาระสำคัญตามที่คณะกรรมการสมาคมมีความเห็นร่วมกันว่า ควรจะยกฐานะชมรม พิโกไฟแนนซ์แห่งประเทศไทย เป็นสมาคมพิโกไฟแนนซ์ประเทศไทย จะเป็นการเหมาะสมที่จะยกระดับความเชื่อถือและเชื่อมั่น กับบุคคลที่มาติดต่อทำธุรกรรมกับเราหรือสถาบันการเงิน หรือหน่วยงานของรัฐ

การประชุมวันนี้ มีสมาชิกเข้าร่วมประชุม จำนวน 77 บริษัท ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้เปลี่ยนชมรมพิโกไฟแนนซ์แห่งประเทศไทยมาเป็นสมาคมพิโกไฟแนนซ์ประเทศไทย ตามที่คณะกรรมการเสนอไว้ และในครั้งนี้ได้พิจารณาแต่งตั้งกรรมการขึ้นมา 9 คน และกรรมการได้พิจารณารับรองการแต่งตั้งให้ นายสมเกียรติ จตุราบัณฑิต เป็นนายกสมาคมคนที่ 1 ประจำปี 2560 และแต่งตั้งผู้บริหารอีก ตามจำนวนที่จะอยู่ในข้อบังคับ

ทั้งนี้ นายกสมาคม จะต้องรับผิดชอบ การร่างข้อบังคับของสมาคม และการยื่นเรื่องขอจดทะเบียนสมาคมต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการขอจดทะเบียนอยู่

นายสมเกียรติ จตุราบัณฑิต

นายกสมาคมพิโกไฟแนนซ์ประเทศไทย